Astigmatism สายตาเอียง

เปิดคู่มือครบวงจร: ทำความเข้าใจ "สายตาเอียง" อย่างละเอียด

สายตาเอียงคืออะไร? หากคุณกำลังประสบปัญหาการมองเห็นภาพเบลอ ภาพซ้อน หรือภาพบิดเบี้ยว ไม่ว่าจะในระยะใกล้หรือไกล คุณอาจกำลังมีภาวะสายตาเอียง เรามาทำความเข้าใจเกี่ยวกับ สายตาเอียง อย่างละเอียด ตั้งแต่สาเหตุ อาการ การวินิจฉัย ไปจนถึงทางเลือกในการรักษาและการดูแลตัวเอง เพื่อให้คุณเข้าใจที่มาที่ไปของ ภาวะสายตาเอียง ให้มากยิ่งขึ้น

สายตาเอียง (Astigmatism) เป็นภาวะผิดปกติทางสายตาที่พบบ่อยอีกชนิดหนึ่ง เกิดจากความโค้งของกระจกตา (Cornea) หรือเลนส์ตา (Lens) มีความโค้งไม่สม่ำเสมอกัน ทำให้แสงที่เข้ามาทุกทิศทางนั้น ไปตกกระทบบนจอประสาทตามากกว่าหนึ่งจุด ส่งผลให้ภาพที่มองเห็นไม่คมชัด เกิดการเบลอ ภาพซ้อน หรือภาพบิดเบี้ยวในแนวใดแนวหนึ่งได้ ไม่ว่าจะเป็นแนวตั้ง แนวนอน หรือแนวทแยง ขึ้นอยู่กับลักษณะความโค้งที่ผิดเพี้ยนไป

คือปกติแล้ว กระจกตาของคนเราจะ "โค้งมนเท่ากันทุกด้าน" เหมือนลูกฟุตบอล เมื่อแสงเข้าสู่ดวงตา แสงจะถูกหักดหและไปรวมกันเป็นจุดเดียวบนจอประสาทตา ทำให้เรามองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน

แต่ถ้าเป็นคนที่มี สายตาเอียง กระจกตาหรือเลนส์ตาของคุณจะมีความ "โค้งไม่เท่ากันทุกด้าน" เหมือนกับลูกรักบี้ ที่มีความโค้งในแต่ละแนวไม่เท่ากัน บางแนวโค้งมาก บางแนวโค้งน้อย เมื่อแสงเข้าสู่ดวงตา แสงจะถูกหักเหไปในทิศทางที่แตกต่างกัน แสงจึงไม่รวมเป็นจุดๆเดียวกัน บนจอประสาทตา แต่จะจายตัวออกเป็นหลายจุด ทำให้ภาพที่เราเห็นจึง ไม่ชัดเจน เบลอ ซ้อน หรือบิดเบี้ยวไปในแนวใดแนวหนึ่ง

หากคุณมีอาการเหล่านี้บ่อยครั้ง อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะสายตาเอียง:


  • มองเห็นภาพไม่คมชัด ทั้งระยะใกล้และไกล: นี่คืออาการเด่นที่สุดของสายตาเอียง ไม่ว่าคุณจะอ่านหนังสือ ดูโทรทัศน์ หรือมองวิวทิวทัศน์ ภาพที่เห็นจะดูเบลอๆ ไม่ชัดเจนเหมือนภาพที่อยู่ในโฟกัส บางคนอาจรู้สึกว่าภาพมัวๆ ไม่ได้คมกริบเหมือนที่ควรจะเป็น
  • มองเห็นภาพซ้อนหรือเงาซ้อน: เป็นอีกหนึ่งอาการจำเพาะของสายตาเอียง โดยเฉพาะเมื่อมองวัตถุที่มีขอบคมชัด เช่น ตัวอักษรบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือไฟรถยนต์ในเวลากลางคืน คุณอาจรู้สึกว่ามีเงาของภาพนั้นๆ ซ้อนทับอยู่ ทำให้ดูไม่ชัดเจน ตัวอักษรอาจดูเหมือนมีขอบฟุ้งๆ หรือมีเส้นบางๆ ซ้อนขึ้นมา
  • ปวดหัว ปวดตา เมื่อใช้สายตานานๆ: เนื่องจากดวงตาต้องพยายามเพ่งและปรับโฟกัสอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้น การทำงานหนักเกินไปนี้จึงทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตาและศีรษะเกิดความตึงเครียด นำไปสู่อาการปวดตาและปวดศีรษะ โดยเฉพาะเมื่ออ่านหนังสือ ทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือขับรถนานๆ
  • ตาพร่ามัว โดยเฉพาะในที่แสงน้อย: ในสภาพแสงน้อย รูม่านตาของเราจะขยายใหญ่ขึ้น เพื่อรับแสงให้ได้มากที่สุด ซึ่งยิ่งเน้นให้เห็นถึงความผิดปกติของกระจกตาที่ไม่สม่ำเสมอ ทำให้การมองเห็นแย่ลงกว่าปกติ ภาพอาจดูพร่ามัว ไม่คมชัด หรือมีแสงฟุ้งกระจายมากขึ้น
  • ต้องหรี่ตาเพื่อพยายามมองให้ชัด: นี่เป็นพฤติกรรมอัตโนมัติที่ร่างกายพยายามช่วยตัวเอง การหรี่ตาเป็นการจำกัดปริมาณแสงที่เข้าสู่ดวงตา และช่วยให้แสงที่ผ่านเข้ามาโฟกัสได้ดีขึ้นชั่วคราว ทำให้มองเห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่ก็เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าการมองเห็นของคุณไม่ปกติแล้ว

สายตาเอียง ไม่ใช่โรคที่เกิดจากการใช้งานสายตามากเกินไป แต่เป็นความผิดปกติของดวงตาที่ส่วนใหญ่เกิดขึ้นตั้งแต่แรกเกิด

มีปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้เกิดภาวะนี้:


 ความโค้งของกระจกตาหรือเลนส์ตาที่ผิดปกติ

นี่คือสาเหตุหลักที่พบได้บ่อยที่สุดของสายตาเอียง ดวงตาของเรามี กระจกตา (Cornea) ซึ่งเป็นส่วนยู่ด้านหน้าสุด และ เลนส์ตา (Lens) ซึ่งอยู่ด้านใน

ทั้งสองส่วนนี้

  • ความโค้งมนกลมเหมือน "ลูกฟุตบอล"  ไม่เป็นสายตาเอียง
  • ความโค้งไม่สม่ำเสมอ เหมือนกับ "ลูกรักบี้"  เป็นสายตาเอียง

รายละเอียดเพิ่มเติม 


 พันธุกรรม

สายตาเอียงสามารถ ถ่ายทอดทางพันธุกรรมได้ หากมีคนในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่ หรือ ปู่ย่าตายาย มีภาวะสายตาเอียง คุณก็มีโอกาสที่จะเป็นสายตาเอียงได้เช่นกัน ซึ่งนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้บางคนมีสายตาเอียงมาตั้งแต่เกิดโดยไม่มีปัจจัยภายนอกเข้ามากระตุ้น


 ปัจจัยอื่นๆ

มีปัจจัยบางอย่างที่สามารถทำให้เกิดสายตาเอียง หรือทำให้สายตาเอียงที่มีอยู่แย่ลงได้ เช่น:

  • การบาดเจ็บที่ดวงตา: การเกิดอุบัติเหตุหรือการบาดเจ็บที่กระทบกระเทือนกับดวงตา อาจทำให้เกิดรอยแผลเป็นบนกระจกตาได้ ซึ่งส่งผลให้ความโค้งของกระจกตาผิดปกติและอาจนำไปสู่การเป็นสายตาเอียงได้
  • โรคตาบางชนิด: โรคบางอย่างที่ส่งผลต่อกระจกตา เช่น ภาวะกระจกตาย้วย (Keratoconus) ซึ่งทำให้กระจกตาบางลงและมีรูปร่างคล้ายกรวย อาจทำให้เกิดสายตาเอียงชนิดรุนแรงและซับซ้อนขึ้นได้
  • หลังการผ่าตัดตาบางประเภท: ในบางกรณีของการผ่าตัดดวงตา เช่น การผ่าตัดต้อกระจก อาจมีการเปลี่ยนแปลงความโค้งของกระจกตาเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้เกิดสายตาเอียงชั่วคราวหรือถาวรได้ในบางราย

สายตาเอียง สามารถแก้ไขและทำให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนได้ มีหลายวิธีให้เลือก ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของสายตาเอียง ไลฟ์สไตล์ และความต้องการของแต่ละบุคคล มาดูกันว่ามีวิธีไหนบ้าง:

 การใส่แว่นตา

การใส่แว่นตาเป็นวิธีที่ง่ายและเป็นที่นิยมที่สุดในการแก้ไขสายตาเอียง เลนส์ที่ใช้สำหรับแก้ไขสายตาเอียงโดยเฉพาะเรียกว่า "เลนส์ Toric"

  • เลนส์ Toric แตกต่างจากเลนส์ทั่วไปที่โค้งเท่ากันหมด แต่ เลนส์ Toric ถูกออกแบบมาให้มีความโค้งที่แตกต่างกันในแต่ละแนว เพื่อชดเชยความโค้งที่ไม่สม่ำเสมอของกระจกตาหรือเลนส์ตาของคุณ ทำให้แสงที่ผ่านเข้ามาสามารถหักเหและไปรวมกันเป็นจุดๆเดียวบนจอประสาทตา ส่งผลให้คุณมองเห็นได้คมชัดขึ้น

 การใส่คอนแทคเลนส์

สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใส่แว่นตาหรือไม่สะดวก คอนแทคเลนส์ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง ซึ่งมีคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษสำหรับสายตาเอียงโดยเฉพาะเช่นกัน เรียกว่า "คอนแทคเลนส์ Toric"

  • คอนแทคเลนส์ Toric คล้ายกับเลนส์ Toric เพราะถูกออกแบบมาให้มีความโค้งที่แตกต่างกันในแต่ละแนวเพื่อแก้ไขค่าสายตาเอียง แต่สิ่งที่สำคัญคือต้องรักษาระนาบหรือองศา ให้อยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องบนดวงตาเสมอ เพื่อให้การแก้ไขมีประสิทธิภาพสูงสุด ปัจจุบันมีทั้งชนิดรายวัน รายเดือน และรายปีให้เลือกซื้อ
  • Orthokeratology (Ortho-K): เป็นการใช้คอนแทคเลนส์ชนิดแข็งพิเศษสวมใส่ในเวลากลางคืน เพื่อปรับเปลี่ยนรูปร่างของกระจกตาชั่วคราว ทำให้มองเห็นชัดในเวลากลางวันโดยไม่ต้องใส่แว่นหรือคอนแทคเลนส์ เหมาะสำหรับผู้ที่มีสายตาเอียงไม่มากและไม่ต้องการผ่าตัด แต่ต้องคอยใส่คอนแทคเลนส์นี้ทุกคืน

คอนแทคเลนส์ Toric (laser mark)

 การผ่าตัดแก้ไขสายตา

สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการใส่ แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ แต่ต้องการมองเห็นคมชัดถาวร การผ่าตัดแก้ไขสายตาเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ ซึ่งมีหลายเทคนิคที่สามารถแก้ไขสายตาเอียงได้ เช่น:

  • เลสิค (LASIK): เป็นการผ่าตัดที่ได้รับความนิยมสูง แพทย์จะใช้เลเซอร์ปรับแต่งรูปร่างของกระจกตาด้านใน เพื่อให้แสงสามารถโฟกัสบนจอประสาทตาได้พอดี
  • PRK (Photorefractive Keratectomy): เป็นอีกเทคนิคหนึ่งที่ใช้เลเซอร์ปรับแต่งกระจกตา แต่จะต่างจากเลสิคตรงที่ไม่มีการเปิดฝากระจกตา
  • ReLEx SMILE (Small Incision Lenticule Extraction): เป็นเทคนิคใหม่ที่ใช้เลเซอร์แยกชิ้นเนื้อเลนส์ขนาดเล็กออกจากกระจกตาแล้วดึงออกผ่านแผลเล็กๆ เหมาะสำหรับแก้ไขสายตาเอียงในบางกรณี
  • เลนส์เสริม (Implantable Collamer Lens - ICL): การใส่เลนส์เสริมเข้าไปในดวงตา ในบางกรณีที่สายตาเอียงสูงมาก จนไม่สามารถแก้ไขด้วยเลสิคได้ เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้รับความนิยม

แม้ว่า "สายตาเอียง" ส่วนใหญ่จะเป็นภาวะที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างของดวงตามาตั้งแต่เกิด และไม่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลทั่วไป แต่การดูแลสุขภาพดวงตาโดยรวมก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อช่วยลดอาการไม่สบายตา ป้องกันไม่ให้ปัญหาสายตาแย่ลง และรักษาดวงตาให้มีสุขภาพที่ดี


 พักสายตาเป็นประจำ

การใช้สายตาจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ หรืออ่านหนังสือนานๆ โดยไม่พัก จะทำให้ดวงตาทำงานหนักและเกิดอาการเมื่อยล้าได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีสายตาเอียงที่ดวงตาต้องทำงานหนักกว่าปกติเพื่อปรับโฟกัสแสงที่หักเหไปทิศทางที่แตกต่างกัน

  • กฎ 20-20-20: ทุกๆ 20 นาทีของการใช้สายตา ให้พักสายตา 20 วินาที โดยมองไปที่วัตถุที่อยู่ห่างออกไป 20 ฟุต (ประมาณ 6 เมตร)
  • กระพริบตาบ่อยๆ: การกระพริบตาจะช่วยให้ดวงตาชุ่มชื้น ลดอาการตาแห้งและระคายเคืองได้


 ใช้แสงสว่างให้เหมาะสม

แสงสว่างที่ไม่เพียงพอ หรือมากเกินไป ล้วนส่งผลเสียต่อดวงตา และอาจทำให้อาการสายตาเอียงแย่ลงได้

  • แสงสว่างพอเพียง: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าบริเวณที่คุณอ่านหนังสือ ทำงาน หรือใช้คอมพิวเตอร์ มีแสงสว่างที่เพียงพอไหม ไม่สว่างจ้าหรือมืดจนเกินไป โดยทั่วไปแสงธรรมชาติเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
  • ปรับความสว่างหน้าจอ: ปรับความสว่างของหน้าจออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้เหมาะสมกับความสว่างสภาพแวดล้อม ไม่มืดหรือสว่างจ้าเกินไป
  • หลีกเลี่ยงแสงสะท้อน: ตำแหน่งของจอคอมพิวเตอร์หรือโคมไฟ ควรอยู่ในทิศทางที่ไม่ทำให้เกิดแสงสะท้อนเข้าตาโดยตรง


 เลือกใช้อุปกรณ์ แว่นตา/คอนแทคเลนส์ที่เหมาะสม

การเลือกใช้วิธีแก้ไขสายตาที่ถูกต้องและเหมาะสมกับค่าสายตาเอียงของคุณ เป็นปัจจัยสำคัญในแก้ไขการมองเห็นที่คมชัดและสบายตา

  • ตรวจวัดสายตา: ต้องแน่ใจว่าแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ที่คุณเลือกใช้ มีค่าสายตาเอียงที่ถูกต้องและแม่นยำ
  • กรอบแว่นที่พอดี: กรอบแว่นที่ไม่พอดี หรือปรับดัดมาไม่เหมาะสม อาจทำให้เลนส์ Toric ตำแหน่งคลาดเคลื่อนได้ ส่งผลให้การมองเห็นไม่คมชัด
  • การดูแลคอนแทคเลนส์: สำหรับผู้ที่นิยมใส่คอนแทคเลนส์ ควรต้องปฏิบัติตามคำแนะนำในการทำความสะอาดและดูแลรักษาอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ดวงตา

1. สายตาเอียงอันตรายไหม?

 โดยทั่วไปแล้ว สายตาเอียงไม่ได้เป็นอันตรายถึงขั้นทำให้ตาบอด หรือเป็นโรคร้ายแรง แต่หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่ได้รับการแก้ไข อาจส่งผลให้คุณภาพการมองเห็นแย่ลง อาจทำให้เกิดอาการปวดหัว ปวดตา หรือเห็นภาพเบลอ และในเด็กเล็ก หากไม่ได้รับการแก้ไข อาจนำไปสู่ภาวะตาขี้เกียจในภายหลังได้


2. สายตาเอียงเพิ่มขึ้นได้หรือไม่?

 สายตาเอียงสามารถเปลี่ยนแปลงหรือเพิ่มขึ้นได้ โดยเฉพาะในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่นที่ดวงตายังมีการเจริญเติบโต นอกจากนี้ รอยโรคบางอย่าง อาจส่งผลต่อค่าสายตาเอียงได้ เช่น โรคกระจกตาย้วย (Keratoconus) ก็สามารถทำให้ค่าสายตาเอียงเพิ่มสูงขึ้นได้ (การตรวจสายตาเป็นประจำจึงสำคัญเพื่อติดตามการเปลี่ยนแปลง)


3. เด็กมีสายตาเอียงต้องทำอย่างไร?

 หากตรวจพบว่าเด็กมีสายตาเอียง ควรรีบปรึกษานักทัศนมาตร หรือจักษุแพทย์เด็กโดยเร็วที่สุด เพื่อรับการแก้ไขที่เหมาะสม โดยส่วนใหญ่จะเริ่มต้นด้วยการใส่แว่นสายตาที่ถูกต้องตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้เด็กได้รับการกระตุ้นทักษะการมองเห็นที่คมชัด ซึ่งจะช่วยป้องกันภาวะตาขี้เกียจ (Amblyopia) ที่อาจเกิดขึ้นได้หากปล่อยทิ้งไว้


4. ใส่แว่นสายตาเอียงแล้วเวียนหัวปกติไหม?

 เป็นเรื่องปกติของผู้ที่เริ่มใส่แว่นสายตาเอียงใหม่ๆ (โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยใส่มาก่อน หรือมีค่าสายตาเอียงเปลี่ยนแปลงมาก) อาจทำให้รู้สึกเวียนหัว เห็นภาพบิดเบี้ยว หรือปรับตัวเข้ากับแว่นสายตาตัวใหม่ได้ยากในช่วง 1-2 สัปดาห์แรก เนื่องจากสมองและดวงตากำลังปรับตัวให้เข้ากับเลนส์ใหม่ หากอาการเวียนหัวรุนแรงหรือไม่ดีขึ้นหลังผ่านไป 2 สัปดาห์ ควรรีบกลับไปปรึกษานักทัศนมาตรหรือจักษุแพทย์ เพื่อตรวจสอบค่าสายตาหรือตำแหน่งพารามิเตอร์ของแว่นตาอีกครั้ง


5. สามารถทำเลสิคแก้สายตาเอียงได้อย่างเดียวเลยไหม?

 การทำเลสิค (LASIK) หรือการผ่าตัดแก้ไขสายตาด้วยเลเซอร์วิธีอื่นๆ เช่น PRK หรือ ReLEx SMILE สามารถแก้ไขสายตาเอียงได้ แต่โดยส่วนใหญ่แล้ว เทคนิคเหล่านี้มักจะแก้ไขปัญหาสายตาสั้นและ/หรือสายตายาวร่วมกับสายตาเอียงไปพร้อมกันในคราวเดียวเลย ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของสายตาเอียงและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล ควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อประเมินและวางแผนการรักษาที่เหมาะสมที่สุด

ปรึกษานักทัศนมาตรเพื่อรับคำแนะนำและการรักษาที่ถูกต้อง

หรือ

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy