จอประสาทตาเสื่อม (Age-Related Macular Degeneration: AMD)

โรคจอประสาทตาเสื่อม หรือ Age Related Macular Degeneration (AMD) เกิดจากการสะสมของเสียในชั้นของจอประสาทตาทำให้จอประสาทตาเสื่อม ส่งผลให้ผู้ป่วยค่อยๆ เห็นภาพบิดเบี้ยว และค่อยๆสูญเสียการมองเห็นภาพตรงกลาง หากไม่ได้รับการรักษาอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นอย่างถาวร

ผู้ป่วยโรคจอประสาทตาเสื่อมมักรู้ตัวค่อนข้างช้า เพราะการมองเห็นตรงกลางจะค่อยๆหายไปช้าๆจนผู้ป่วยไม่ทันสังเกต หรืออาจจะเริ่มจากการเป็นเพียงข้างเดียวก่อน แต่ผู้ป่วยอาจไม่รู้ตัว เพราะโดยปกติการมองสิ่งต่างๆจะใช้ 2 ตาในการมอง ทำให้สมองมีการละเลยความผิดปกตินั้นไป อาจทำให้ผู้ป่วยบางรายรู้ตัวช้า และอาจสูญเสียการมองเห็นบางส่วนไปแล้ว

จอประสาทตาอยู่บริเวณลูกตาส่วนหลัง ทำหน้าที่ในการรับแสง และแปลงเป็นสัญญาณประสาทส่งไปยังสมอง

ปัจจัยที่ทำให้เกิดโรคจอประสาทตาเสื่อม

  • อายุ 50 ปีขึ้นไป
  • ผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคจอประสาทตาเสื่อม
  • การสูบบุหรี่
  • โรคเบาหวาน
  • ผู้ที่มีความดันโลหิตและระดับไขมันในเลือดสูง
  • ได้รับรังสีอัลตร้าไวโอเลต(UV)เป็นประจำ
  • สายตาสั้นมาก

สัญญาณเตือนโรคจอประสาทตาเสื่อม

  • เห็นภาพพร่ามัว
  • เห็นภาพบิดเบี้ยว
  • เห็นจุดดำตรงกลางภาพ
  • ลำบากในการใช้ชีวิตประจำวัน เช่น การขับรถ หรือการจดจำใบหน้าคน
  • เห็นสีผิดเพี้ยนไป
  • สู้แสงได้น้อยลง

ประเภทของจอประสาทตาเสื่อม

1.จอประสาทตาเสื่อมแบบแห้ง หรือ Dry-AMD

มีการสะสมของของเสียในชั้นของจอประสาทตา ทำให้จอตาเสื่อม และบางลง ทำให้การมองเห็นค่อยๆพร่ามัว และบิดเบี้ยวจอประสาทตาเสื่อมประเภทนี้พบได้ 85-90% ของผู้ป่วยจอประสาทตาเสื่อมทั้งหมด การดำเนินไปของโรคเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป

การรักษา

ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาให้หายขาด แต่จะเน้นไปในทางลดปัจจัยและชะลอการดำเนินไปของโรค ดังนี้

  • ควบคุมความดันโลหิตและระดับไขมันในเลือด
  • ควบคุมน้ำหนัก
  • หลีกเลี่ยวอาหารที่มีคอลเลสเตอรอลสูง
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์อย่างผัก ผลไม้ เนื้อปลา
  • งดการสูบบุหรี่
  • สวมแว่นที่ได้มาตรฐานสามารถกันแสงอัลตร้าไวโอเลต(UV)ได้

2.จอประสาทตาเสื่อมแบบเปียก หรือ Wet-AMD

มักเกิดหลังจากจอประสาทตาแบบแห้ง เมื่อชั้นในจอประสาทตามีของเสียสะสมมากๆ จะทำให้จอประสาทตาขาดเลือดร่างกายจึงพยายามสร้างหลอดเลือดขึ้นมาใหม่ ซึ่งหลอดเลือดใหม่ที่สร้าง มีความบาง เปราะ แตกง่าย หากหลอดเลือดแตกจะทำให้มีเลือดคั่งอยู่ใต้จอประสาทตา ทำให้จอประสาทตาบวม การมองเห็นพร่ามัวลงอย่างรวดเร็วและอาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ เพราะเซลล์รับภาพบนจอประสาทตาตาย

การรักษา

  • เลเซอร์

- Laser Photocoagulation เป็นการยิงเลเซอร์หลอดเลือดฝอยที่มีความผิดปกติ เพื่อไม่ให้เลือดไหล ผลข้างเคียง อาจทำให้พื้นที่รอบข้างที่ถูกฉายเลเซอร์ถูกทำลายไปด้วย วิธีนี้จึงเหมาะสมกับผู้ที่รอยโรคห่างจากจุดรับชัด

- Photodynamic Therapy (PDT) เป็นการยิงเลเซอร์ร่วมกับการใช้ยา โดยใช้วิธีการฉีดยาเข้าร่างกาย ให้ยาไปจับกับผนังหลอดเลือดที่ผิดปกติ และใช้เลเซอร์ฉายพลังงานต่ำเพื่อกระตุ้นให้ยาทำงาน ตัวยาจะไปช่วยอุดการแตก รั่วซึมของเส้นเลือด วิธีนี้จะทำลายจอประสาทตารอบข้างน้อยกว่าวิธี Laser Photocoagulation และคงระดับการมองเห็นได้มากกว่า แต่อาจผลข้างเคียงอย่างปวดตามร่างกายบางส่วน เช่น ปวดหลัง

  • ฉีดยา Anti - VEGF หรือ Anti - Vascular Endothelial Growth Factor เป็นวิธีที่ได้รับความนิยม โดยตัวยาที่จะเข้าไปจับกับเส้นเลือดที่ผิดปกติโดยตรง ทำให้เส้นเลือดงอกใหม่ฝ่อไป แต่ในช่วงแรกอาจต้องฉีดยา 3 ครั้ง/เดือน และอาจค่อยๆลดลงได้ตามความรุนแรงของโรค
  • การผ่าตัด เพื่อเจาะระบายเลือดที่คั่งที่วุ้นในตา หรือใต้จอประสาทตา อาจทำร่วมกับการฉีดยาละลายลิ่มเลือด หรือยาต้านการเจริญเติบโตของเส้นเลือดเข้าวุ้นในตา

**ทั้งนี้วิธีการรักษาในผู้ป่วยแต่ละคนอาจแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแพทย์

การตรวจคัดกรองด้วยตนเองเบื้องต้น

อุปกรณ์ที่ใช้ เรียกว่า ตาราง Amsler Grid

วิธีการทดสอบ

  1. ถือ Amsler Grid Chart ห่างจากตาประมาณ 40 cm.
  2. ปิดตาข้างซ้าย และใช้ตาขวามองไปที่จุดดำตรงกลางตาราง
  3. สังเกตดูเส้นตารางรอบข้าง โดยที่ตายังจ้องอยู่ที่จุดดำตลอดเวลา ว่าเส้นตารางมีความผิดปกติหรือไม่

สลับมาทดสอบตาซ้ายโดยการปิดตาขวา และใช้วิธีการเดิมข้างต้น

**แม้ว่าทดสอบด้วยวิิธีนี้แล้วไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่ผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป ก็ควรไปตรวจคัดกรองสุขภาพดวงตาทุกปี เพื่อป้องกันการสูญเสียการมองเห็น

ลักษณะภาพที่ผู้ป่วยจอประสาทตาเสื่อมเห็น

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy